เคยไหม...เวลาประตู “ปัง!” ใส่กรอบเสียงดังจนน่าตกใจ หรือเปิดค้างไว้จนแอร์รั่ว ฝุ่นปลิวเข้ามาเต็มห้อง? เรื่องเล็ก ๆ แบบนี้เกิดขึ้นทุกวัน แต่สามารถแก้ได้ง่ายมากด้วย “โช๊คอัพประตู (Door Closer)” — อุปกรณ์ชิ้นเล็กที่ช่วยควบคุมการเปิด–ปิดให้เป็นจังหวะ นุ่มนวล และปลอดภัยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

ในตลาดที่มีโช๊คอัพหลายยี่ห้อ หลายคนอาจไม่รู้ว่า แบรนด์ไทยอย่าง JARTON ก็เป็นหนึ่งในผู้นำที่มีคุณภาพและความคุ้มค่าที่ผู้ใช้งานไว้วางใจ ออกแบบมาเพื่อสภาพอากาศและการใช้งานจริงของคนไทย ทั้งในด้านความทนแดดฝน เสียงเงียบ และดีไซน์ที่เข้ากับบ้านทุกสไตล์

โช๊คอัพประตูคืออะไร และทำไมถึงควรมีติดบ้าน “โช๊คอัพประตู” คือกลไกไฮดรอลิกที่ช่วยควบคุมแรงปิดประตูให้นุ่ม ไม่กระแทก ทำงานด้วยระบบแรงต้านจากน้ำมันภายใน ทำให้ประตูปิดช้าลงเป็นจังหวะ และกลับเข้าสู่ตำแหน่งปิดอย่างแนบสนิทโดยไม่ต้องใช้แรงคน

ประโยชน์ของโช๊คอัพประตู

• ปิดประตูอย่างนุ่มนวล ลดเสียงกระแทก
• ป้องกันความเสียหายของวงกบและบานพับ
• รักษาอุณหภูมิภายในห้อง โดยเฉพาะห้องแอร์
• เพิ่มความปลอดภัยในบ้านที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง
• ช่วยให้บ้านดูเรียบร้อยและใช้งานสะดวกมากขึ้น

ประเภทของโช๊คอัพประตู JARTON

JARTON มีโช๊คอัพหลายประเภทให้เลือก เพื่อให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานของแต่ละพื้นที่

1. โช๊คติดบานบน (Overhead Door Closer)

ติดตั้งบริเวณด้านบนของบานประตู เป็นรุ่นที่นิยมที่สุด
ช่วยให้ประตูปิดนุ่มนวล ไม่กระแทก และปรับแรงปิดได้หลายระดับ
บางรุ่นมีฟังก์ชัน “ตั้งค้างได้ (Hold-Open)” เหมาะสำหรับร้านค้าและสำนักงาน

เหมาะสำหรับ: บ้านทั่วไป ร้านค้า สำนักงาน อาคารเรียน

เพิ่มเติม:
โช๊คติดบานบนแบ่งออกได้เป็น 2 แบบย่อย

• แบบแขนตรง (Standard Arm Type): แขนต่อออกจากโช๊คเป็นเส้นตรง เหมาะกับบานที่เปิดออกด้านเดียว ใช้งานทั่วไป ติดตั้งง่าย ดูแลสะดวก

• แบบแขนขนาน หรือแขนงอ (Parallel Arm Type): แขนพับขนานไปกับบานประตู ดูเรียบร้อยและปลอดภัยกว่า เพราะอุปกรณ์ไม่ยื่นออกมา เหมาะกับพื้นที่สาธารณะหรืออาคารเรียนที่ต้องการลดการกระแทก

จุดเด่น: ติดตั้งง่าย ราคาไม่สูง ควบคุมแรงปิดได้ดี เหมาะกับงานทั่วไปทั้งในบ้านและอาคารสำนักงาน

2. โช๊คซ่อนในบาน (Concealed Door Closer)

ซ่อนกลไกไว้ภายในบานหรือวงกบ ทำให้ประตูดูเรียบหรู ไม่เห็นอุปกรณ์ภายนอก
แต่ยังคงควบคุมแรงปิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เหมาะสำหรับ: บ้านสมัยใหม่ โรงแรม อาคารสำนักงาน หรือโครงการที่เน้นดีไซน์

เพิ่มเติม:
โช๊คซ่อนมักใช้กับประตูบานไม้หรือบานอลูมิเนียมที่ต้องการความสวยงาม ไม่มีชิ้นส่วนเกะกะสายตา เหมาะกับสถาปัตยกรรมที่เน้นความเรียบ มินิมอล และต้องการซ่อนฮาร์ดแวร์ไว้ภายใน

จุดเด่น: สวยงาม ดูเรียบร้อย เหมาะกับงานตกแต่งภายในที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์ และยังคงความแข็งแรงของกลไก

3. โช๊คติดพื้น (Floor Spring Door Closer)

ฝังติดในพื้น เหมาะกับประตูกระจกบานใหญ่หรือบานเปิดสองทิศทาง
ช่วยให้ประตูปิดเองอย่างนุ่มนวลและมั่นคง แม้ใช้งานต่อเนื่องตลอดวัน

เหมาะสำหรับ: ร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน ประตูกระจกหน้าอาคาร

เพิ่มเติม:
โช๊คแบบฝังพื้นมักใช้ในงานเชิงพาณิชย์หรืออาคารสาธารณะที่มีการเปิด–ปิดบ่อย เช่น ประตูกระจกหน้าร้าน หรือโซนทางเข้าอาคาร โดยตัวโช๊คถูกฝังในพื้นเพื่อรองรับแรงจากบานขนาดใหญ่ ช่วยให้การเคลื่อนไหวของบานประตูเป็นธรรมชาติและทนต่อการใช้งานหนัก

จุดเด่น: รองรับน้ำหนักได้มาก ใช้งานได้ทั้งบานเปิดข้างเดียวหรือสองทิศทาง ให้ความสวยงามเรียบหรูเหมาะกับอาคารทันสมัย

4. โช๊คสำหรับบานเลื่อน (Sliding Door Closer)

ออกแบบมาเฉพาะสำหรับประตูบานเลื่อน
ช่วยให้ประตูเลื่อนกลับปิดอย่างนุ่มนวล ไม่กระแทกหรือเด้งกลับ

เหมาะสำหรับ: ห้องครัว ร้านค้า หรือบ้านพักอาศัย

⚙️ ฟังก์ชันพิเศษในโช๊คอัพ JARTON

• ตั้งค้างได้ (Hold-Open Type) เปิดประตูค้างไว้ตามมุมที่ต้องการ

• รุ่น Heavy Duty รองรับบานประตูน้ำหนักมากกว่า 120 กก.

• รุ่น Fire Rated ผ่านมาตรฐาน UL และ ANSI สำหรับอาคารที่ต้องการความปลอดภัยสูง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.jarton.co.th หรือพูดคุยกับทีมผู้เชี่ยวชาญผ่าน Facebook: JARTON Group เพื่อให้เราช่วยเลือกโช๊คอัพที่เหมาะกับบ้านและประตูของคุณที่สุด✨