เราใช้คุกกี้เพื่อทำให้ประสบการณ์ของคุณดีขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งใหม่ของ e-Privacy เราจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณในการตั้งค่าคุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติม
ปัญหายาเสพติดยังคงเป็นภัยคุกคามหลักของประเทศ ทั้งในมิติความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย และคุณภาพชีวิตของประชาชน รูปแบบการกระทำผิดมีความซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะการลักลอบขนส่งและการกระจายเครือข่ายที่เคลื่อนที่รวดเร็ว ทำให้การบังคับใช้กฎหมายต้องอาศัยเครื่องมือที่ให้ผลรวดเร็วและใช้ได้จริงในพื้นที่ปฏิบัติการ หนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ทั่วโลกคือ เครื่องตรวจร่องรอยสารเสพติด (Explosives and Narcotics Trace Detector – ETD) ที่ใช้หลักการ Ion Mobility Spectrometry (IMS) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อการตรวจคัดกรองเบื้องต้นในภาคสนามโดยเฉพาะ
ข้อจำกัดของกระบวนการตรวจสารเสพติดแบบเดิม กระบวนการตรวจสารเสพติดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันยังพึ่งพา
การตรวจปัสสาวะ
การเก็บตัวอย่างส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ
วิธีการเหล่านี้มีข้อจำกัดสำคัญ คือใช้เวลานาน ไม่สามารถสนับสนุนการตัดสินใจในสถานการณ์จริง และไม่สามารถตรวจร่องรอยสารเสพติดที่หลงเหลือบนวัตถุ สถานที่ หรือยานพาหนะได้โดยตรง
ผลคือการควบคุมผู้ต้องสงสัยหรือการขยายผลคดีต้องล่าช้า และห้องปฏิบัติการมีภาระงานเกินขีดความสามารถในหลายพื้นที่
เทคโนโลยี Ion Mobility Spectrometry (IMS) คืออะไร?
IMS เป็นเทคโนโลยีที่สามารถตรวจจับร่องรอยสารเสพติดในระดับนาโนแกรม โดยอาศัยการวัดความเร็วของไอออนเมื่อเคลื่อนที่ผ่านสนามไฟฟ้า ซึ่งสารแต่ละชนิดจะมีค่าการเคลื่อนที่เฉพาะตัว ทำให้ระบบสามารถระบุสารต้องสงสัยได้ภายในไม่กี่วินาที เครื่อง ETD แบบ IMS ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานภาคสนาม เช่น
ไม่ต้องใช้ก๊าซหรืออุปกรณ์เสริม
พร้อมใช้งานรวดเร็ว
ตรวจได้แม้มีสารตกค้างในปริมาณน้อยมาก
รองรับสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น ความชื้น หรืออุณหภูมิสูง
การยอมรับในระดับสากลของเครื่อง ETD (IMS)
เทคโนโลยี IMS ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายและนิติวิทยาศาสตร์ระดับสากล เช่น
โดยถูกจัดให้เป็น เครื่องมือ Presumptive Screening มาตรฐาน สำหรับสนับสนุนการตรวจค้น การจับกุม และการขยายผลคดี ทั้งในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย
ความจำเป็นของการจัดหาเครื่อง ETD สำหรับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เอกสารข้อเสนอระบุชัดว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องการเครื่องมือที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถ
ตรวจสถานที่เกิดเหตุได้ทันที
มีข้อมูลเบื้องต้นประกอบการใช้ดุลพินิจ
ลดการรอผลจากห้องปฏิบัติการ
เพิ่มอัตราการจับกุมและขยายผลคดี
การมีเครื่อง ETD (IMS) ในจำนวนที่เพียงพอ จะช่วยให้การบังคับใช้กฎหมายมีความต่อเนื่อง ลดช่องว่างระหว่างการตรวจพบกับการดำเนินการทางกฎหมาย
ผลตรวจจากเครื่อง ETD (IMS) ถูกจัดเป็น ผลตรวจคัดกรองเบื้องต้น (Presumptive Test) ใช้ประกอบการจับกุมหรือการสอบสวนในชั้นต้นได้ โดยยังต้องมีการส่งตรวจยืนยันในห้องปฏิบัติการตามกฎหมายเดิม ดังนั้น การนำเครื่อง IMS มาใช้งาน ไม่จำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายระดับพระราชบัญญัติ และสามารถกำหนดแนวทางการใช้งานผ่านประกาศภายในของหน่วยงานได้ทันที เครื่องตรวจร่องรอยสารเสพติด ETD ด้วยเทคโนโลยี IMS ไม่ใช่อุปกรณ์ใหม่หรือการทดลอง แต่เป็นเครื่องมือมาตรฐานที่ถูกใช้งานจริงในหลายประเทศ การจัดหาเครื่อง ETD สำหรับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นการเพิ่มขีดความสามารถเชิงปฏิบัติ ลดความล่าช้าในกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย และยกระดับมาตรฐานการทำงานให้สอดคล้องกับนานาชาติอย่างเป็นรูปธรรม
Login and Registration Form