เมนู Toggle

POPULAR

7 สิ่งควรรู้ เพื่อการเลือกซื้อ “เครื่องฆ่าเชื้อในอากาศ” ให้ได้ประสิทธิภาพ

7 สิ่งควรรู้ เพื่อการเลือกซื้อ “เครื่องฆ่าเชื้อในอากาศ” ให้ได้ประสิทธิภาพ

“เครื่องฆ่าเชื้อในอากาศ” ช่วยจัดการสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ในอากาศอย่างฝุ่นควัน หรือกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ เพื่อให้อากาศสะอาดบริสุทธิ์นี้ กำลังเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่หลายพื้นที่กำลังได้รับผลกระทบ และด้วยการที่ฝุ่นเจ้าปัญหาดังกล่าว สามารถเล็ดลอดเข้ามาทำอันตรายได้ถึงภายในบ้าน ทำให้หลายคนเริ่มเกิดความกังวล และกำลังมองหาซื้อเครื่องฟอกอากาศดีๆ สักเครื่องมาใช้เพื่อปกป้องตนเองและคนที่คุณรัก แต่ปัญหาหลักของการเลือกซื้อคือไม่รู้ว่าจะต้องเลือกอย่างไร เพราะว่าในตลาดก็มีหลายรุ่นหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อซะเหลือเกิน ด้วยเหตุนี้ JARTON จึงขอมาแนะนำวิธีเลือก “เครื่องฆ่าเชื้อในอากาศ” ให้เหมาะสมกับการใช้งานมาฝาก

 

  1. ขนาดห้อง
    การเลือกซื้อเครื่องฆ่าเชื้อในอากาศควรดูในเรื่องความเหมาะสมของพื้นที่ห้องด้วย เพราะเครื่องฆ่าเชื้อในอากาศแต่ละรุ่นมีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศต่างกัน เช่น การซื้อเครื่องฆ่าเชื้อในอากาศขนาดเล็ก แต่นำไปวางไว้ในห้องที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ก็จะทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพไม่เต็มที่ และหากซื้อเครื่องฆ่าเชื้อในอากาศขนาดใหญ่ แต่นำไปวางไว้ในห้องที่มีพื้นที่ขนาดเล็กก็จะทำให้เปลืองไฟ
  2. ราคา
    ไม่ใช่เพียงการสำรวจเพียงราคาของเครื่องฆ่าเชื้อในอากาศเท่านั้น แต่ควรจะศึกษาถึงราคาอุปกรณ์ที่จำเป็นในตัวเครื่องด้วย รวมถึงการบำรุงรักษาในส่วนอื่นควบคู่ไปด้วย เพื่อคำนวณถึงความคุ้มค่า
  3. ระบบการทำงาน
    เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องฆ่าเชื้อในอากาศ คือดูก่อนว่าระบบการทำงาน และคุณสมบัติตอบโจทย์การใช้งานของเราหรือไม่ ทั้งนี้รวมไปถึงฟังก์ชันการใช้งานอื่น ๆ เช่น เซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ, ตัวควบคุมต่างๆ และรีโมตสั่งการ สิ่งพวกนี้ถือเป็นคุณสมบัติที่ควรนำมาพิจารณาก่อนเลือกซื้อ
  4. ค่า CADR
    ค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) หรืออัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ต่อนาที ซึ่งเป็นค่าสากลที่ใช้วัดประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องฆ่าเชื้อในอากาศ ถ้ามีค่า CADR สูง หมายถึงว่าเครื่องฆ่าเชื้อในอากาศมีประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้นเท่านั้น
  5. ระดับเสียง
    อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเครื่องฆ่าเชื้อในอากาศที่ดีควรมีระดับเสียงการทำงานที่ต่ำ เพื่อป้องกันการรบกวนขณะพักผ่อน ซึ่งระดับเสียงที่มีความเหมาะสมไม่ควรเกิน 30-31 เดซิเบล
  6. การประหยัดไฟ
    เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป การเลือกซื้อจะต้องคำนึงกำลังไฟฟ้าที่จะส่งผลต่อค่าไฟ ยิ่งมีจำนวนวัตต์มาก ก็จะยิ่งกินไฟมาก ไม่ต้องถึงกับต้องมีป้ายประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะว่ากำลังไฟของเครื่องฆ่าเชื้อในอากาศขนาดเล็ก - กลาง จะอยู่ราวๆ 29 - 50 วัตต์ พอๆ กับพัดลมตั้งโต๊ะขนาดกลาง 1 ตัว และบางรุ่นจะมีโหมดประหยัดพลังงานมาให้ด้วย
  7. การรับประกันและบริการหลังการขาย

ไม่ว่าจะแบรนด์ใดก็ตาม ไม่มีสินค้าใดที่ทั้งล็อตจะผลิตออกมาสมบูรณ์ 100% ทุกชิ้น และถ้าเราเกิดดวงไม่ดีเป็นหนึ่งในผู้โชคร้ายที่ได้ของมีปัญหา หากมีการรับประกันและบริการหลังการขายที่ดี จะทำให้คุณอุ่นใจ ส่งเคลมได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องมากระวนกระวายให้เสียสุขภาพจิต

 

สนใจเครื่องฆ่าเชื้อในอากาศระบบยูวีและไฟฟ้าสถิต JARTON อากาศสะอาด ปราศจากเชื้อโรค เพื่อคนที่คุณรักคลิก

https://www.jarton.co.th/blog/post/jarton-unbox-jarton-home-131375-airpurifier

Shopee : https://bit.ly/3ycujcf

ก่อน ISO สำคัญอย่างไร? ทำไมทุกองค์กรต้องมี
ต่อไป 4 Tips แสนง่าย เพิ่มกลิ่นหอมในห้องแถมอากาศสะอาด