เมนู Toggle

POPULAR

กว่าจะเป็น “กุญแจล็อกบ้าน” อย่างทุกวันนี้ มีที่มาอย่างไร?

กว่าจะเป็น “กุญแจล็อกบ้าน” อย่างทุกวันนี้ มีที่มาอย่างไร?

นักประวัติศาสตร์ไม่แน่ใจว่าเริ่มต้นที่ไหน มีข้อสันนิษฐานว่ากุญแจกลไกลูกแรกทำด้วยไม้มีการพัฒนาโดยอิสระในหลายพื้นที่ในเวลาเดียวกัน เช่น จีน เปอร์เซีย อียิปต์ แอสซีเรีย (Assyria) กรีก และโรมัน จากหลักฐานบนภาพวาดเฟรสโกในวิหารอียิปต์โบราณแสดงให้เห็นว่ากุญแจไม้ถูกใช้มาตั้งแต่ 4,000 ปีก่อน บางแหล่งอ้างว่ามีการใช้กุญแจหลากหลายประเภท เช่น padlock (กุญแจสายยู) door lock, cylinder lock, pin lock, pin-tumbler lock, cylinder pin-tumbler lock, Yale lock ฯลฯ ระบบกุญแจที่รู้จักครั้งแรกเป็นกุญแจแบบพิน (pin lock) โดยจะมีพินไม้ซึ่งจะตกลงมาในรูบนไม้ขัดแตะประตูตามแรงโน้มถ่วงของโลก ทำให้ไม้ขัดแตะเลื่อนไม่ได้ ส่วนลูกกุญแจจะมีแท่งไม้มีความยาวที่พอดีกับการยกพินไม้ในรูบนขัดแตะประตู ซึ่งความยาวของแท่งไม้คือตัวแปรสำคัญในการปลดกุญแจ ลูกกุญแจ (แท่งไม้) ถูกใส่เข้าไปในรูและสลักจะถูกดันในระยะที่พอดี ทำให้สามารถเลื่อนขัดแตะประตูออกได้

กุญแจแบบนี้ยังพบในญี่ปุ่น นอร์เวย์ และเกาะฟาโรห์ และยังคงถูกใช้ในอียิปต์ อินเดีย นอกจากนั้นยังถือว่าเป็นบรรพบุรุษหรือต้นแบบของกุญแจล็อคระบบพินที่ใช้กันในทุกวันนี้ ต่อมามีการพัฒนาวัสดุในการผลิต โดยทำด้วยทองเหลืองหรือเหล็ก ในอียิปต์โบราณกุญแจโลหะเป็นเครื่องแสดงสถานะทางสังคม นอกจากนี้ยังพบว่ามีการประดับด้วยการฝังมุก ทอง และเงินบนกุญแจในซากของเมืองปอมเปอี (Pompeii) อีกด้วย ชาวโรมันโบราณได้พัฒนาระบบกุญแจให้ดีขึ้นอีกโดยรวมระบบกุญแจของอียิปต์และกรีกเข้าด้วยกัน และยังคิดค้นกลไกกุญแจล็อกบ้านที่ติดตั้งด้านในประตู แต่สามารถไขกุญแจจากด้านนอกของประตูผ่านรูกุญแจได้ แม้ชาวจีนและคนแถบตะวันออกใกล้ (ประเทศแถบเอเชียตะวันตก) มีการคิดค้น พัฒนา Padlock แต่ชาวโรมันถูกถือว่าเป็นชนชาติที่ทำให้กุญแจเป็นที่รู้จักและนิยมในยุคนั้น โดยทำให้เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานได้จริง พกพาง่าย นอกจากนี้ช่างกุญแจยังทำให้ลูกกุญแจล็อคบ้านมีขนาดเล็กลง ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับช่างกุญแจในปัจจุบัน หลังจากอาณาจักรโรมันเสื่อมลง เริ่มเข้าสู่ยุคกลาง ซึ่งนับเป็นยุคทองของช่างกุญแจ เป็นช่วงที่มีการว่าจ้างช่างกุญแจสร้างกุญแจสำหรับป้องกันสิ่งของมีค่าของปราสาท ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นกลไกเท่านั้น แต่ยังมีความสวยงามในเชิงศิลปะอีกด้วย ซึ่งนับจากยุคกลางจนมาถึงยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ (Renaissance) ในแง่กลไกของกุญแจไม่มีการพัฒนาปรับปรุงมากนัก มีเพียงลูกเล่นและการเล่นลวดลายเท่านั้น ทำให้การสะเดาะกุญแจเป็นสิ่งที่ไม่ยากนัก

กุญแจล็อกบ้าน

การเริ่มต้นพัฒนาระบบกุญแจสมัยใหม่ถูกเริ่มอย่างจริงจังในปี 1778 ในประเทศอังกฤษ เริ่มโดย โรเบิร์ต บาร์รอน (Robert Barron) ได้ประดิษฐ์ระบบกุญแจกุญแจล็อกบ้านแบบ Lever Tumbler Lock ซึ่งเป็นกุญแจเพื่อความปลอดภัยอย่างแท้จริงเป็นครั้งแรก ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของระบบกุญแจได้เริ่มแล้ว หลังจากการบุกเบิกของบาร์รอน ก็มีนักประดิษฐ์อย่าง บรามาห์ นิวเวลล์ ชับบ์ แอนดรูว์ เปอร์ตีต์ พารอนส์ และเยล ปี 1784 (ระหว่างการพัฒนากุญแจของบาร์รอนและของชับบ์ (Chubb) ได้ประดิษฐ์เครื่องจักรต่างๆ อีกหลายอย่าง ในปี 1844 ไลนัส เยล (Linus Yale) ได้ประดิษฐ์กุญแจระบบไส้พินโลหะ (pin-tumbler cylinder lock) โดยมีลักษณะพื้นฐานแบบเดียวกันกับระบบกุญแจของอียิปต์ยุคแรกๆ โดยลูกชายของเขา ไลนัส เยล จูเนียร์ (Linus Yale junior) พัฒนาให้ลูกกุญแจแบนและเล็กลงโดยมีขอบหยัก (มีลักษณะเหมือนลูกกุญแจในปัจจุบัน) ซึ่งเป็นลักษณะพื้นฐานของกุญแจแบบพินโลหะสมัยใหม่ (modern pin-tumbler locks) และยังสามารถผลิตในจำนวนมากได้อีกด้วย ในปี 1857 เจมส์ ซาร์เจนท์ ได้ประดิษฐ์คิดค้นระบบกุญแจแบบรวม (combination lock) ได้เป็นผลสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก ผลงานการคิดค้นกุญแจล็อคบ้านของเขาได้รับความนิยมจากบรรดาผู้ผลิตตู้นิรภัยและกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา ปี 1862 ไลนัส เยล จูเนียร์ (Linus Yale Jr.) ซึ่งเป็นวิศวกรเครื่องกลและผู้ผลิตกุญแจได้จดสิทธิบัตรไส้กุญแจระบบพินโลหะ (cylinder pin-tumbler lock) ซามูเอล ซีกัล (อดีตตำรวจเมืองนิวยอร์ก) ประดิษฐ์กุญแจจิมมีปรู๊ฟล็อคอันแรก (jimmy proof lock) ในปี 1916 ซึ่งซีกัลป์ถือสิทธิบัตรอยู่ 25 ปี แฮร์รี่ โซเรฟ ทำกุญแจสายยู (padlock) ซึ่งทั้งแข็งแรงและง่ายต่อการใช้ โครงสร้างของกุญแจทำด้วยแผ่นโลหะ

แนวโน้มของกุญแจในปัจจุบันมีการพัฒนาการใช้งานได้สมบูรณ์แบบมากขึ้นตามความต้องการของผู้ใช้งาน และชนิดของกุญแจและระบบกุญแจก็มีมากขึ้น การผลิตในระบบอุตสาหกรรมที่ผลิตเป็นจำนวนมากทำให้การออกแบบเน้นหลักการใช้งานและความแน่นหนามากกว่าที่จะมุ่งเรื่องความสวยงามหรือทางด้านศิลปะ ทำให้ผู้มีสุนทรียภาพ นิยมสะสมกุญแจในยุคเก่าๆ ซึ่งนอกจากจะออกแบบตามการใช้งานแล้ว ยังคำนึงถึงความงามทางกายภาพอีกด้วย กุญแจรุ่นเก่าๆ เหล่านี้นับวันก็จะหาชมและสะสมได้ยากขึ้นตามความก้าวหน้าของการผลิต และการออกแบบระบบกุญแจล็อกบ้านในปัจจุบันและอนาคต


สนใจ ลูกบิดประตู JARTON คลิก

ก่อน JARTON ชวนรู้จัก “สเตนเลส สตีล” วัสดุใช้ผลิตลูกบิดประตู
ต่อไป "ลูกบิดประตู" 3 ประเภท ที่คนไทยนิยมใช้งาน